สตางค์สายสี่ ศิลปพระเครื่อง: บทความเล่าสู่กันฟัง

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

บทความเล่าสู่กันฟัง

[ขอเชิญเพื่อนๆพี่ๆทุกท่านครับแลกเปลี่่ยนความรู้/ข่าวสารกันนะครับ คริ๊ก LINK ด้านล่างได้เลยครับwww.satang112.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แบ่งปันเคร็ดรับน่ารู้

ปัจจุบันพระเหรียญคณาจารย์ต่างๆล้วนได้รับความนิยมมากขึ้นยิ่งเก่าสวยราคาไปถึงหลักล้านก็มี ปฎิเสธไม่ได้ครับกับความโลภเห็นแก่ได้ของคนกลุ่มนึงที่เป็นตัวถ่วงของวงการพระเครื่องมาทุกยุคทุกสมัยนั้นก็คือ พระปลอม นับวันยิ่งพัฒนาไปได้ไกลเรียกว่าถ้าไม่ชำนาญการดูจริงตกเป็นเหยือแทบทุกรายไป ในอดีตผู้สนใจพระเหรียญมักจะเลือกใช้วิธีจดจำตำหนิจุดต่างๆขององค์พระ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่อย่าลืมนะครับการทำปลอมก็ถูกแกะจากพระแท้แม้กระทั้งตำหนิจุดต่างๆดังนั้นเรามาศึกษาเทคนิคสั้นๆของพื้นฐานการดูระดับเซียนใหญ่กัน ลืมเรื่องตำหนิจุดต่างๆก่อน แล้วมาศึกษาธรรมชาติของเหรียญ โดยอาศัยหลักพื้นฐาน 4ข้อ ดังนี้
1 ความคมชัดของตัวหนังสือและอักขระยันต์
2 พื้นผิวของเหรียญที่เรียบตึง ไม่มีร่องรอยการถอดพิมพ์
3 การเจาะรูหูเหรียญต้องมีเนื้อปลิ้นเกินที่เป็นธรรมชาติ
4 การตัดขอบเหรียญวิวัฒนาการจะแตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีในแต่ละยุคสมัย
ข้อ 4 อันนี้สำคัญนะครับ เพราะขอบด้านข้างของเหรียญเป็นสิ่งเดียวที่ยังไม่สามารถปลอมได้เหมือน เพราะร่องรอยด้านข้างนั้นเกิดขึ้นโดยธรรมชาติจากการผลิตในแต่ละยุคสมัย เพื่อง่ายแก่การศึกษาจะขอแบ่งเป็น 3ยุคนะครับ
ยุคที่ 1 ประมาณ พ.ศ. 2440-2485
เป็นช่วงที่ที่นิยมสร้างพระเหรียญมีกรรมวิธีการสร้าง2ชนิด คือ
1 เหรียญชนิดปั๊มข้างเลื่อยคือนำโลหะแผ่นใหญ่กว่าเหรียญที่สร้างมาปั๊มแล้วเลื่อยฉลุตามรูปทรงออกมาให้สวยงาม
2 เหรียญชนิดปั๊มข้างกระบอก คือการนำแผ่นโลหะมาเลื่อยให้ได้ตามรูปทรงเพื่อเข้ากระบอก ด้านข้างของเหรียญชนิดนี้จะมีความเรียบเนียนเพราะถูกกระบอกเป็นตัวบังคับ บางเหรียญจะมีเส้นทิวบางๆที่ขอบข้างซึ่งเกิดจากการแต่งขอบให้สวยงามครับ
ยุคที่ 2 ประมาณ พ.ศ. 2486-2499 ยุคนี้เรียกว่าปั้มตัดยุคเก่า พัฒนาจากเดิมด้วยการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยกว่าเดิมมาใช้แทนกระบอก ด้านข้างเหรียญจะมีลักษณะมนๆ ไม่ค่อยมีรอยมากนัก
ยุคที่ 3 ประมาณ พ.ศ. 2500 จนถึงปัจจุบัน ยุคนี้ได้พัฒนาตัวตัดข้างเหรียญที่ทันสมัยเพื่อสะดวกแก่การทำจำนวนมาก แนวตัดยุ๕นี้จึงค่อนข้างคมชัด
เหรียญที่ถูกสร้างขึ้นในยุคสมัยเดียวกันความแตกต่างกันจะไม่มากลองหาเหรียญแต่ละยุคขึ้นมาดูครับไม่จำเป็นต้องหาของแพงมาศึกษา